ขยะสะสมรายการที่ 1 …ไดอารี่/สมุดบันทึก…

Post ที่แล้ว 60up ได้เล่าเรื่อง “หนังสือเล่มโปรด” ที่พบจากการ clear หนังสือกองโตในวันแรกของกิจกรรมรื้อบ้าน วันที่สองและนับมาจนถึง ณ วันนี้ กิจกรรมอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ก็ยังต้องยกให้เป็นเรื่องการจัดบ้าน-รื้อของอยู่ดีแหละค่ะ….อุแม่เจ้า…ยิ่งรื้อยิ่งจัด ยิ่งพบแต่สิ่งของต้องทิ้งท้างน้านน…เฮ้อ!!!!!””ตอนนั้นรู้สึกเหนื่อยใจมาก…เข้าใจแล้วว่า ความรกรุงรังทั้งหลายในบ้านมาจากของสะสมพวกนี้นี่เอง…ถุงพลาสติกเอย…กล่องใส่อาหารเอย…ขวดน้ำพลาสติกเอย…แถมยังมี…ถุงบรรจุน้ำยาซักผ้า&ปรับผ้านุ่ม…ซุกอยู่ด้วย…อะไรกันนี่ …ตลกแท้ ของสะสมมีแต่ ขยะ ขยะ และขยะ แต่ทว่าระหว่างทางที่รื้อค้นจัดระเบียบข้าวของ กลับพบว่า มีขยะหลายรายการ ที่เดินทางไปพร้อมกับการใช้ชีวิตของ 60up เป็น story ที่บอกเล่าถึงตัวตนได้ดีทีเดียวค่ะ เหลือเชื่อว่าการเก็บซุก “ขยะ” บางครั้งก็มีคุณค่าเหมือนกันนะคะ เลยขอเชื้อเชิญชาว net ตามมาดูของสะสมจำพวกขยะที่มีคุณค่าสำหรับ 60up กันดีกว่านะคะ และขอเรียกเกร๋ๆ ว่า “ขยะสะสม” ค่ะ

ขยะสะสมที่มีคุณค่า แสดงความเป็นตัวตนและเดินทางเคียงคู่กับ 60up จนถึงทุกวันนี้ มีด้วยกัน 5 รายการค่ะ แต่ละรายการมีเรื่องเล่าเฉพาะอย่างที่ต่างกัน ฉบับนี้ขอเริ่มเล่าเรื่อง Diary/สมุดบันทึก ก่อนนะคะ ส่วนอีก 4 รายการ จะทยอย post ให้ได้อ่านติดๆ กันใน post ต่อๆ ไปค่ะ…

Diary/สมุดบันทึก

เชื่อว่า ทุกคนคงใช้ Diary เพื่อเขียนบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ เช่นกันนะคะ หลายท่านอาจจะเขียนบันทึกกิจวัตรประจำวัน ไปทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร และใช้จ่ายอะไรไปบ้าง บางท่านจะเล่าถึงความในใจที่บอกใครไม่ได้ เขียนเพื่อระบายสิ่งที่อัดอั้นตันใจ ระบายความรู้สึกเครียด หรือ อกหัก หมดแรงจะต่อสู้ บางครั้งอาจจะวาดภาพ ระบายสี กดกระแทกปลายปากกา/ดินสอหรือขีดฆ่าลงใน Diary ฯ

ชาว net คะ ลองหา Diary เล่มเก่ามาเปิดอ่าน เทียบเคียงกับเรื่องราวใน Diary ที่ 60up จะเล่าให้ฟังใน paragraph ต่อๆ ไป ดูนะคะว่าเหมือนต่างกันอย่างไร แล้วรู้สึกอย่างไรกับข้อความที่ได้บันทึกเอาไว้นั้น

(1) บันทึกเรื่องค่าใช้จ่ายรายวัน

ข้อค้นพบ: ในแต่ละเดือนเราหมดตังค์ไปกับของที่ไม่จำเป็น ของฟุ่มเฟือย มากน้อยแค่ไหน รายการบันทึกเหล่านี้ช่วยเตือนสติให้เราระมัดระวังการใช้เงินมากขึ้น…แม้ว่าเราจะมีเงินมากแต่ถ้าใช้มาก เราอาจจนกว่าคนที่มีเงินน้อยแต่รู้จักใช้เงินมากกว่านะคะ เพราะฉะนั้นการบันทึกช่วยให้ ไม่หลงใหลเป็นทาส อำนาจเงิน…อิอิ…ยืมเนื้อเพลงมาใส่หน่อยนะคะ

(2) บันทึกเรื่องลูก เมื่อยังเป็น Baby ทารกน้อย

ข้อค้นพบ: เมื่อเราได้เป็นคุณแม่ คำว่า “ว่าง” คงสะกดไม่ถูก จริงไหมคะคุณแม่ทั้งหลาย เราจะคอยแต่เฝ้ามองดูลูกน้อยค่อยๆ เติบใหญ่…อย่างหนึ่งที่ 60up ชอบทำคือจดบันทึกเรื่องราวของลูก นอกจากจะต้องติดตามวันครบรอบฉีดวัคซีนแล้ว แม้แต่จะขยับตัว ส่งเสียงเล็กๆ เราก็จะรีบถลาไปหาลูกทันที ยิ่งเป็นคุณแม่ที่ต้อง work @Office ตารางบันทึกการดูแลลูกรายวันของพี่เลี้ยงเป็นสิ่งสำคัญมากทีเดียว

สามสิ่งดีๆ ที่ได้จากบันทึกเรื่องลูก

Point แรก: ทำให้เห็นพัฒนาการทางกายของลูก เช่น ลูกเริ่มคว่ำวันที่เท่าไหร่ อยู่ในเกณฑ์ปกติหรือเร็วกว่า ลูกพูดคำแรกว่าอะไร ทำไมลูกไม่ตั้งไข่ จู่ๆ ก็ลุกขึ้นเดินได้ภายในวันเดียวเลย ฯลฯ

Point ที่สอง: เป็นการควบคุมการทำงานของพี่เลี้ยงแบบไม่ตั้งใจ ช่วยให้คลายกังวลเมื่ออยู่ห่างลูก

Point ที่สาม: บันทึกเล่มนี้จะถูกส่งให้ลูกเมื่อถึงเวลา…ให้มองเห็นถึงความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูก

(3) บันทึกการทำงานในหน้าที่อาชีพ

ข้อค้นพบ: Step บันทึกการทำงานทุกโครงการของ 60up ประกอบด้วย 3 ขั้นตอน นั่นคือ การประชุม/วางแผน, การเตรียมงาน และ การสรุปผลการทำงาน

(4) ความสวยงามของภาพหน้าปก เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ Diary กลายเป็นของสะสมไปในที่สุดค่ะ

ของฝากชาว net ส่งท้าย 2 เรื่อง:

เรื่องแรก …มีงานวิจัยใน Website ที่เชื่อถือได้ กล่าวว่า

1) การเขียน Diary ทุกๆ วันทำให้เราค้นพบสิ่งเล็กๆ ที่มีความหมาย สิ่งเล็กๆ เหล่านี้ ช่วยพัฒนาสมอง บำรุงหัวใจ และเปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนเราให้เป็นคนที่ดีขึ้นกว่าเดิมอย่างไม่ทันรู้ตัว

2) การบันทึกอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ Working Memory ทำงานดีขึ้น กล่าวคือ อยากความจำดี Diary ช่วยคุณได้

3) สิ่งที่คิดว่ายากหรือหาทางออกไม่ได้ ให้ลองเขียนความรู้สึกต่างๆ เหล่านั้นใน Diary แล้วจะพบว่า เราสามารถหาทางออกได้เสมอ เพราะ เวลาเขียน เราต้องใช้ความคิด ต้องเรียงลำดับคำบรรยายเรื่องราวและข้อมูล ไม่เช่นนั้นแม้แต่เราเองก็ยังอ่านไม่เข้าใจ ซึ่งวิธีเขียนจะช่วยให้มีการจัดเรียงความคิดอย่างเป็นระบบ ทำให้สมองมีพื้นที่ว่างพอที่จะจดจำและทำความเข้าใจกับเรื่องใหม่ๆ ได้อีก

เรื่องที่สอง ..2R วิธีการเขียน Diary เพื่อพัฒนาตนเอง

R ตัวแรก Remember Me จดจำตัวเอง บันทึกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในแต่ละวันไว้เป็นความทรงจำ เริ่มจากบรรยายเรื่องที่เรารู้สึกไม่ค่อยดีหรือเครียดเสียก่อน แล้วตามด้วย สิ่งดีๆ ที่ได้รับ และ สิ่งดีๆ ที่เกิดจากการกระทำของตัวเราเอง

R ตัวที่สอง Reflect Me หลังจากเขียนเสร็จแล้ว ให้อ่านสิ่งที่เขียนแล้วสะท้อนความคิดออกมา แล้วเราจะ getเราจะเข้าใจและค้นพบสิ่งที่เราไม่เคยรู้มาก่อนจากตัวเราเอง

ติดตามอ่าน post หน้ากันต่อนะคะ ขอบคุณค่ะ